รวบแล้ว! 18 มงกุฏตัวท็อป “ภักดี แซ่อั้ง” ตุ๋นขายของสารพัด – ตุ๋นแม้แต่ตำรวจ

ข่าวล่าสุด

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางไซเบอร์ (ผบก.ตอท.) พ.ต.อ.พรชัย โฆษิตสุรังคกุล ผกก.กลุ่มงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พ.ต.ท.ศรายุ กลิ่นหอม รอง ผกก.กลุ่มงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ได้จับกุม นายภักดี แซ่อั้ง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลศาลแขวงนนทบุรี ที่ 371/2563 ลงวันที่ 2 ต.ค.63 ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ฉ้อโกง โดยจับกุมได้ที่ห้องพักในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซอยปุณวิถี 11 สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง

พล.ต.ต.นิเวศน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก บช.ไซเบอร์ พบข้อมูลว่า มีการตั้งกลุ่มในแอปพลิเคชั่นไลน์ ชื่อกลุ่มว่า “คนโกง=>ภักดี แซ่อั้ง”  ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากการฉ้อโกง ผ่านช่องทางการขายของทางออนไลน์ มีสมาชิกในกลุ่มอยู่ประมาณ 50 คน จึงได้ติดต่อไปยังกลุ่มผู้เสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือ จนทราบว่า ทั้งหมดถูก นายภักดี แซ่อั้ง หลอกขายสินค้า โดยนายภักดีจะอ้างตัวว่า เป็นพ่อค้าขายสินค้ามือสองออนไลน์ ซึ่งจะเสนอขายสินค้าประเภทต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ค เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจยย. ไปจนถึงหน้ากากอนามัย เป็นต้น เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะให้แอดไลน์ไปที่ไลน์ไอดี “thamobile991” เพื่อติดต่อสั่งซื้อสินค้าจากผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาจะนำรูปสินค้าที่มาจากที่อื่นส่งให้ดู แล้วอ้างว่ามีสินค้า หากชำระสินค้าแล้วจะทำการจัดส่งให้ผู้เสียหายทันที และเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้แก่ผู้ต้องหาแล้ว ไม่นานผู้ต้องหาจะบล็อกไลน์ และลบชื่อผู้เสียหายออกไปทันที โดยมีเหยื่อหลงเชื่อกว่า 100 ราย ผู้เสียหายบางรายไม่ได้แจ้งความ มูลค่าความเสียหายที่รวบรวมได้ประมาณ 267,000 บาท

พล.ต.ต.นิเวศน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนึ้ จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาใช้ชื่อตัวเองในการเปิดบัญชีธนาคารเป็นบัญชีหลักในการทำธุรกรรม 1 บัญชี จากนั้นจะใช้วิธีการสร้างเลขบัญชีที่มีลักษณะเป็นเวอร์ชวลแอคเคาท์ ซึ่งเป็นบริการของธนาคารที่อนุญาตให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเองได้ผ่านช่องทางแอพพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้ผู้ต้องหาในบัญชีดังกล่าวแล้ว หากมีการอายัดบัญชี ผู้ต้องหาจะดำเนินการเปิดบัญชีใหม่เพื่อหลอกผู้เสียหายรายอื่น และเป็นการหลบการตรวจจับของตำรวจ โดยเจ้าตัวทำความผิดในลักษณะเช่นนี้มาเป็นเวลากว่า 2 ปี ต่อมาตำรวจชุดจับกุมทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาอยู่ในอพาร์ทเมนต์ภายในซอย ปุณณวิถี 11 สุขุมวิท 101 จึงนำกำลังไปจับกุมได้

จากการสอบสวนนายภักดี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง นอกจากนี้ยังพบประวัติการกระทำผิด เคยเข้าเรือนจำมาแล้ว 4 ครั้ง เป็นคดี และเมื่อปี 2556 เคยแจ้งความเท็จหลอกตำรวจ สน.บุปผาราม อ้างว่า ถูกล้วงกระเป๋าไม่มีเงินกลับบ้าน ขอเงินตำรวจได้ไปหลายครั้ง สุดท้ายตำรวจรู้ความจริงภายหลังเลยดำเนินคดีติดคุกไป 2 ครั้ง หลังพ้นโทษผู้ต้องหาก็มาทำงานร้านมือถือ 2-3 ร้าน จนเกิดความชำนาญในการหลอกเรื่องโทรศัพท์ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข่าว https://www.dailynews.co.th/crime/822540